มหาวิทยาลัยเกริกหนึ่งเดียวในไทยนำศึกษาฝึกงานกับบริษัทเอกชนชื่อดังซาอุฯ เพื่อดูแลฮุจญาดไทยปี 2566 เข้าพบกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 ศาสตราจารย์ ดร.จรัญ มะลูลีม คณบดีวิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ ได้มอบหมายให้ อ.สราวุธ และซัน รองคณบดีฝ่ายบริหารและวิเทศสัมพันธ์ ดร.บัณฑิต อารอมัน ผู้ช่วยคณบดี ดร.ปริญญา ประหยัดทรัพย์ ผู้อำนวยการหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาบริหารธุรกิจอิสสาม อ.ฟารุก มะตัง อาจารย์สาขาวิชาบริหารธุรกิจ นางสาวศรสวรรค์ มะหะหมัด และนายสุรพันธ์ อาร์มินเซ็น เจ้าหน้าที่วิทยาลัยฯ พร้อมด้วย ท่านสมศักดิ์ ชุ่มชื่น ที่ปรึกษาวิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ นำนักศึกษาเข้าพบกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ โดย นายกิตินัย นุตกุล กงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ มอบหมายให้ นายพิสูจน์ สุวรรณรัศมี รองกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ และท่านหาลิม แวนะไล หัวหน้าฝ่ายกงสุล ฯ ให้การต้อนรับ มอบโอวาท และร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักศึกษา และคณาจารย์ในหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในมิติของการพัฒนาศักยภาพบุคคลากรที่สามารถสนับสนุนกิจการของภาครัฐและภาคเอกชนในประเทศซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียมีทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้ความร่วมมือระหว่างประเทศและความร่วมมือในด้านอื่น ๆ
อ.สราวุธ และซัน รองคณบดีวิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ ได้นำเรียนกงสุลใหญ่ในรายละเอียดเพิ่มเติมว่า วิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ มหาวิทยาลัยเกริก เป็นมหาวิทยาลัยแรกที่ได้เดินทางเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียหลังจากไทยและซาอุดีอาระเบียรื้อฟื้นความสัมพันธ์ ส่งผลให้การขับเคลื่อนด้านการศึกษาเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของมหาวิทยาลัยเกริกที่จำเป็นจะต้องใช้กลไกและโอกาสในการผลักดันความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อให้นักศึกษามีโอกาสเข้ามาฝึกงานหรือมีโอกาสเข้ามาทำงานในสายที่ตรงต่อความต้องการของตนเอง
ในขณะที่ ดร.ปริญญา ประหยัดทรัพย์ ซึ่งมีบทบาทในฐานะอาจารย์ประจำของวิทยาลัยและผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้รายงานผลการปฏิบัติงานของนักศึกษาวิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ ซึ่งได้รับโอกาสสูงสุดจากบริษัทมาชาริก (Mashariq) เพื่อดูแลผู้ประกอบพิธีฮัจย์ชาวไทยในปี 2566 กว่า 12,000 คน โดยวิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ มหาวิทยาลัยเกริก เป็นหนึ่งเดียวของประเทศไทยที่ได้รับทุนเต็มจำนวน 10 ทุน เพื่อนำนักศึกษามาฝึกปฏิบัติงานจริงในภาคสนาม นายชาคริต สลักเพชร หนึ่งในผู้แทนนักศึกษาได้กล่าวแสดงความรู้สึกว่า “ผมรู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสมาเรียนรู้การปฏิบัติงานจริงในภาคสนาม เข้าใจต่อกระบวนการจัดการ และต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอยู่เสมอ เนื่องจากการดูแลฮุจญาจ (ผู้แสวงบุญ) กว่า 12,000 คน ไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องทำทั้งในเวลากลางวันและเวลากลางคืน ประสบการณ์ครั้งนี้ช่วยให้ผมเข้าใจถึงการบริหารจัดการที่ตรงต่อสาขาที่กำลังเรียนและได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก” ในขณะที่ท่าน พิสูจน์ สุวรรณรัศมี รองกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ได้แสดงความขอบคุณกับการเสียสละของนักศึกษาและคณาจารย์ที่กำกับดูแล ซึ่งเป็นหน้าตาของประเทศ และอยากให้เป็นแบบอย่างของรุ่นต่อ ๆ ไปในโอกาสข้างหน้า
นอกจากนี้ กงสุลหาลิม แวนะไล ยังได้แนะนำว่าควรขณะนี้เจ้าหน้าที่ด้านการทูตที่เข้าใจวัฒนธรรมอาหรับ ภาษาอาหรับ เริ่มลดน้อยถอยลงไป การเปิดหลักสูตรความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการทูต โดยการพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาไทยที่ไปเรียนในต่างประเทศเป็นเรื่องที่ค่อยข้างจำเป็น โดยเฉพาะการเรียนรู้เกี่ยวกับกลุ่มประเทศอาหรับในมิติของวัฒนธรรม เศรษฐกิจ การค้า น่าจะตอบโจทย์ต่อความต้องการของประเทศในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระหว่างประเทศกับกลุ่มประเทศอาหรับกว่า 22 ประเทศ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการทูตในหลากหลายบริบทจึงเป็นเรื่องที่วิทยาลัยอาจไปพิจารณาเปิดหลักสูตรรองรับในโอกาสต่อไป
ในโอกาสนี้ท่านสมศักดิ์ ชุ่มชื่น ที่ปรึกษาวิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ มหาวิทยาลัยเกริก ได้นำคณะนักศึกษาดูงานร้านอาหารไทยชื่อดังในกรุงเจดดาห์ และเปิดครัวเลี้ยงเลี้ยงอาหารไทย ณ Asian Restaurant Jeddah แก่บรรดาคณาจารย์และนักศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นที่นิยมของบรรดาชาวอาหรับ ชาวอาเซียน และคนต่างชาติที่เข้ามาทำงานในกรุงเจดดาห์