มหาวิทยาลัยเกริก ร่วมกับ สถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ จัดตั้งสมาพันธ์สถาบันการศึกษาในระดับนานาชาติ (สถาบันทางวิชาการ)

มหาวิทยาลัยเกริกร่วมกับสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติจัดตั้ง สมาพันธ์สถาบันการศึกษาในระดับนานาชาติ (สถาบันทางวิชาการ) และความรู้ด้านวิทยาศาสตร์

        การจัดตั้ง สมาพันธ์สถาบันการศึกษาในระดับนานาชาติ (สถาบันทางวิชาการ) และความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 ซึ่งมีประกาศจัดตั้งผ่านระบบออนไลน์ (วิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์) โดยมีสมาพันธ์เพื่อการพัฒนาการศึกษาระหว่างประเทศของจีน – อาเซียน” (China-ASEAN International Education Development Alliance) เป็นผู้ริเริ่มและให้การสนับสนุนในครั้งนี้ ซึ่งปัจจุบันสำนักงานใหญ่ได้จัดตั้งขึ้นที่ศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยเกริก โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพทางวิชาการและวิทยาศาสตร์ให้กับคณาจารย์และนักศึกษาในสถาบันการศึกษาในระดับนานาชาติและประชาชนทั่วไป อีกทั้งยังมีการดำเนินการพัฒนาคุณภาพทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
        การจัดตั้ง สมาพันธ์สถาบันการศึกษาในระดับนานาชาติ (สถาบันทางวิชาการ) และความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ได้จัดตั้งขึ้นที่มหาวิทยาลัยเกริก ( Krirk University ) ซึ่งได้เปิดดำเนินการเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2495 โดยท่านอาจารย์ ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ ที่มีลักษณะเน้นการเรียนการสอนไปทางด้าน ศิลปะ สาธารณสุขศาสตร์ เศรษฐศาสตร์และทางวิชาการอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาแล้วหลายหมื่นคนที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงและมีหน้าที่การงานที่ดีทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อาทิ อาจารย์ผู้สอนที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการด้านสาธารณสุข นักการเมือง ศิลปิน/ดารานักแสดง และบุคคลสำคัญอีกมากมาย
        ใน ปี พ.ศ. 2565 มหาวิทยาลัยเกริกได้รับการจัดอันดับ Qs world university rankings หรือ การจัดอันดับสถาบันการศึกษาทั่วโลก ซึ่งมีมหาวิทยาลัยเพียง 83 แห่งจากทั่วโลกเท่านั้นที่ได้รับคะแนนการประเมินในระดับ 5 ดาว ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาได้ปลูกฝังและพัฒนาคนไทยให้เกิดความเชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารภาษาจีนจำนวนหลายหมื่นคน ซึ่งมีส่วนช่วยในการส่งเสริมมิตรภาพระหว่างไทย-จีน การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และเพื่อต่อสู้กับผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น มหาวิทยาลัยเกริกได้มีการปรับเปลี่ยนเวลาและวิธีการจัดการการเรียนการสอน โดยเลือกวิธีการสอนที่เหมาะสมที่สุด ปรับปรุงการฝึกอบรมภาคปฏิบัติ/การฝึกงานให้ดีขึ้นและเหมาะสมกับสถานการณ์นั้นๆ เพิ่มมาตรฐานในการกำกับดูแลในด้านการเรียนการสอน เสริมสร้างมาตรฐานการเรียนการสอนและงานวิจัยทางวิชาการ เพื่อเป็นการรับประกันคุณภาพทางการศึกษาและคุณภาพที่ผู้ศึกษาเล่าเรียนจะได้รับ อีกทั้งยังได้รับการประเมินคุณภาพการสอนที่ดีจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา แห่งประเทศไทย และการประเมินคุณภาพการสอนระดับ 5 ดาวของ QS ( QS Stars Ratings) ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

        มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมและให้การสนับสนุนในการจัดตั้ง สมาพันธ์สถาบันการศึกษาในระดับนานาชาติ (สถาบันทางวิชาการ) และความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ นั้นมาจากประเทศไทย ประเทศรัสเซีย ประเทศจีน ประเทศมาเลเซีย ประเทศสิงคโปร์ รวมถึงสถาบันการศึกษาที่มีการสอนที่ครอบคลุมทุกด้าน(Comprehensive University) สถาบันการศึกษาที่เปิดสอนเฉพาะด้าน และสถาบันวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม กลุ่มผู้มีความรู้และมีเป้าหมายพัฒนา (นักพัฒนา) เป็นต้น โดยลักษณะเด่นของสถาบันการศึกษาเหล่านี้ คือ การให้ความสําคัญกับการเปิดรับความร่วมมือแบบเปิดกว้าง มีผู้นําและทีมผู้บริหาร ทีมนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญที่มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในระดับนานาชาติ เน้นการสร้างและปลูกฝังความรู้ทางประวัติศาสตร์ ความรับผิดชอบต่อสังคมและมีส่วนช่วยในการพัฒนาอารยธรรมของโลกให้เกิดความก้าวหน้าไปในทิศทางที่ดีขึ้น มีแนวคิดและมาตรการที่ทันสมัย ประชาชนในพื้นที่เกิดความรู้และเข้าใจในมวลความรู้ทางวิทยาศาสตร์อย่างถ่องแท้ ลึกซึ้ง จนสามารถนำเอาความรู้นั้นไปใช้ในการตัดสินใจแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น สามารถนำไปใช้ดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม (Scientific Literacy) ในที่ประชุมจัดตั้ง สมาพันธ์สถาบันการศึกษาในระดับนานาชาติ (สถาบันทางวิชาการ) และความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ยังได้ประกาศว่า กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย (Asian Disaster Preparedness Center – ADPC) อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งประเทศไทย อดีตรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงอื่น ๆ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกริก ศ.ดร.นพ. กระแส ชนะวงศ์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานสมาพันธ์สถาบันการศึกษาในระดับนานาชาติฯคนแรก และผู้ที่ดูแลสถาบันการศึกษาและสถาบันทางวิชาการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ให้ดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียน เมื่อสิ้นสุดวาระ และศาสตราจารย์ติง เต๋อ ประธานคณะกรรมการวิชาการระดับนานาชาติมหาวิทยาลัยเกริก ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและการศึกษาทักษะขบวนการคุณภาพทางวิทยาศาสตร์ เป็นประธานคณะกรรมการวิชาการคนแรก

        ดร.จางซู่เว่ย์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกริก ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการคนแรกของสมาพันธ์สถาบันการศึกษาในระดับนานาชาติ (สถาบันทางวิชาการ) และความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ได้อ่านบันทึกข้อตกลงในการจัดตั้งสมาพันธ์โดยกล่าวว่า ข้อเสนอในการจัดตั้งสมาพันธ์สถาบันการศึกษาในระดับนานาชาติ (สถาบันทางวิชาการ) และความรู้ด้านวิทยาศาสตร์นั้น ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมการให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์แก่สาธารณชน สร้างรูปแบบการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพสูงให้กับประชาชนหรือบุคคลทั่วไปให้สามารถเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย ประสานงานและส่งเสริมนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สร้างค่านิยมทางวิทยาศาสตร์ที่ทำให้เกิดความมั่นคง ความสามัคคี และเน้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการใช้ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ “การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการใช้ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์” อ้างอิงมาจากมุมมองของศาสตราจารย์ Zhang Qizhi นักประวัติศาสตร์และ นักปรัชญาด้านความคิดที่มีชื่อเสียงของจีน กล่าวว่า “การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการใช้ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์จะต้องมีความสัมพันธ์และรวมเป็นหนึ่งเดียวกันเท่านั้น ซึ่งได้รับการพิสูจน์จากประวัติศาสตร์ จากการพัฒนาอารยธรรมของมนุษย์ในศตวรรษที่ 20 และยังเสนอว่าสมาชิกของสมาพันธ์สถาบันการศึกษาในระดับนานาชาติฯ ที่ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นควรจะมีความมุ่งมั่นและเติบโตด้วยการใช้ความคิดอย่างมีวิจารณญาณและการนำทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ในอนาคตเกิดการพัฒนาที่กว้างขึ้น และสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ความคิดวิจารณญาณและสามารถนำทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์มาใช้ในการแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้น และเพื่อให้สามารถนำประโยชน์ที่ได้รับนำมาพัฒนาและสร้างประโยชน์ความก้าวหน้าทางอารยธรรมไห้ดีขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นควรมุ่งมั่นผลักดันให้รัฐบาล และหน่วยงานภาครัฐของประเทศตัดสินใจ เลือกใช้ความคิดอย่างมีวิจารณญาณและการนำทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์มาเป็นส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตัดสินใจที่สําคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อทําให้เกิดสันติภาพและการพัฒนาของโลก

Share:

หนังสือยินยอมให้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อ หรือสนใจข้อมูลของมหาวิทยาลัย


ด้วยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เป็นกฎหมายที่มีเจตนารมณ์เพื่อคุ้มครองสิทธิความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลโดยกำหนดให้การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องขอความยินยอมพร้อมทั้งแจ้งวัตถุประสงค์ให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยชัดแจ้งเว้นแต่เป็นการดำเนินการที่กฎหมายอนุญาตให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประมวลผลโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล

โดยหนังสือฉบับนี้ มหาวิทยาลัยเกริก หรือ “มหาวิทยาลัย” ถือเป็นผู้ควบคุมข้อมูลที่มีหน้าที่ตามกฎหมายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในการครอบครองหรือควบคุมของมหาวิทยาลัย มีความประสงค์ขอความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นทั้งข้อมูลทั่วไปและข้อมูลอ่อนไหวสำหรับสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อ หรือสนใจข้อมูลของมหาวิทยาลัยเพื่อติดต่อสื่อสารให้ข้อมูลหรือคำแนะนำ หรือทำการตลาด หรือจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ และให้คำแนะนำด้านการเรียน ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อ

สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อ หรือสนใจข้อมูลของมหาวิทยาลัยหรือ “ข้าพเจ้า” ขอให้ความยินยอมกับมหาวิทยาลัยในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

(1) ข้าพเจ้ายินยอมให้มหาวิทยาลัยเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าที่เป็นทั้งข้อมูลทั่วไปและข้อมูลอ่อนไหว เพื่อให้มหาวิทยาลัยนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ใน หนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อ

(2) ข้าพเจ้ายินยอมให้มหาวิทยาลัยเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าจากแหล่งที่มาตามที่ระบุไว้ใน หนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อ

(3) ข้าพเจ้ายินยอมให้มหาวิทยาลัยเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า เท่าที่ระบุไว้ใน หนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อ เว้นแต่กรณีจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไปตามที่กฎหมายกำหนด

(4) ข้าพเจ้ายินยอมให้มหาวิทยาลัยและผู้ปฏิบัติงานอื่นของมหาวิทยาลัยนำข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าที่ได้เก็บรวบรวม ใช้ เพื่อนำไปดำเนินการจัดการศึกษาหรือกิจการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยตามที่ระบุไว้ใน หนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อ

(5) ข้าพเจ้ายินยอมให้มหาวิทยาลัยเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าให้แก่หน่วยงานของรัฐและหน่วยงานภายนอก ตามที่ระบุไว้ใน หนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อ

(6) ในกรณีที่มหาวิทยาลัยมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ (ถ้ามี) มหาวิทยาลัยจะขอความยินยอมจากข้าพเจ้าอีกครั้งตามที่ระบุไว้ใน หนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อ

(7) ข้าพเจ้าทราบว่าข้าพเจ้ามีสิทธิตามที่ระบุไว้ใน หนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อ และมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมทั้งหมดหรือบางส่วนเมื่อใดก็ได้โดยแจ้งให้มหาวิทยาลัยทราบและมหาวิทยาลัยอาจขอทราบเหตุผลแห่งการนั้นได้ แต่การเพิกถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อความยินยอมที่ข้าพเจ้าได้ให้ไปก่อนหน้านี้ ในกรณีที่การเพิกถอนความยินยอมกระทบต่อสิทธิหรือหน้าที่ใดๆ ของข้าพเจ้า หรือทำให้ข้าพเจ้าไม่ได้รับสิทธิประโยชน์หรือการบริการจากมหาวิทยาลัยอีกต่อไป ข้าพเจ้ายอมรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการนั้นได้

ข้าพเจ้าได้อ่านและเข้าใจในหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อ หรือสนใจข้อมูลของมหาวิทยาลัยโดยตลอดแล้วและข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่ได้ให้ไว้กับมหาวิทยาลัยถูกต้องตามความเป็นจริงทุกประการ หากข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงท่านตกลงยินยอมให้มหาวิทยาลัยดำเนินการตามกฎหมายหรือชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น แล้วแต่กรณี

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุ๊กกี้โดยเปิด/ปิด คุ๊กกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้นคุ๊กกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากไม่ยินยอม ให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึก